Dermatix VS Puricas ฉบับอยากผิวเรียบไร้รอยแผลเป็นเจ้าค่ะ
ตามละมุนีมาจับแพะชนแกะ ฉบับสาวอยากสวยอยากใสอยากไร้รอยแผลเจ้าค่ะ
เป็นสาวเป็นนางย่อมอยากมีผิวพรรณสวยใสไร้รอยแผลเป็นธรรมดา วันนี้ละมุนีเลยจะมาจับสองเจลรักษารอยแผลเป็นอย่าง Dermatix Ultra และ Dragon’s Blood Scar Gel มาชนกัน ตามแบบฉบับสาวสังคมที่อยากมีผิวเรียบเนียนไร้รอยแผลเป็นกันเจ้าค่ะ
อ่านรีวิวเสร็จแล้วสาวๆ หนุ่มๆ ก็รีบไปร้านขายยาโดนพลัน และอย่าลืมแวะมาบอกเล่าประสบการณ์ให้ละมุนีฟังด้วยนะเจ้าคะว่าตัวเองใช้แล้วเป็นยังไงบ้างงงง
กระซิบนิด ว่าทั้งสองยี่ห้อสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเจ้าค่า
ซื้อของเราต้องมองราคาเจ้าค่ะ Dermatix ราคา 675 บาท / 9 กรัม ตกกรัมละ 75 บาท ส่วน Puricas 290 บาท / 8 กรัม ตกกรัมละ 36.25 บาท
เทียบกันกรัมต่อบาท Puricas ถูกกว่า Dermatix 38.75 ทีเดียวเจ้าค่ะ แต่เราจะตัดสินกันแค่ที่ราคาไม่ได้! ไปดูประสิทธิภาพกันต่อเลยเจ้าค่ะ
Dermatix เป็นเจลใส ไร้สี ไร้กลิ่นเจ้าค่ะ ส่วนตัว Puricas เป็นเจลเหมือนกัน แต่มีสีออกเหลือง มีกลิ่นเล็กน้อยเจ้าค่ะ แต่ไม่ใช่กลิ่นแบบน้ำหอมนะเจ้าคะ
เพราะเป็นเนื้อเจล ทั้งสองตัวเลยซึมไวมากๆ ถ้าทาที่หน้าก็ทาครีมบำรุงต่อได้เลยเจ้าค่ะ แต่เนื่องจาก Puricas มีเนื้อเจลสีเหลือง ผิวตรงที่ทาจะออกเหลืองกว่าหน่อยๆ ซึ่งพอครีมซึมก็หายเจ้าค่ะ
มาวิเคราะห์ส่วนผสมชูโรงกันเจ้าค่ะ
💖Dermatix ตัวนี้เค้าชู CPX กับ Vitamin C เจ้าค่ะ ซึ่งเรารู้กันอยู่แล้วว่าวิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยเรื่องความกระจ่างใส ทำให้สีแผลเป็นดูจางลง นอกจากนี้ยังช่วยให้แผลหายไวขึ้นด้วยเจ้าค่ะ แต่ CPX คืออะไรล่ะ? อันนี้ละมุนีไปหาคำตอบมาให้แล้วเจ้าค่า
CPX คือ เจลซิลิโคนที่มีชื่อว่าไซโคลเพนตะไซล็อกเซน (Cyclopentasiloxane/CPX) ที่ช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้น สร้างคอลลาเจนบริเวณแผลเป็น ทำให้แผลเป็นอ่อนนุ่มลงและเรียบเนียนขึ้นเจ้าค่ะ ตอบโจทย์พวกแผลเป็น แผลนูน แผลผ่าตัดสุดๆ เจ้าค่ะ
💖Puricas ตัวนี้เค้าเน้นมากๆ เรื่อง Dragon’s Blood หรือ เลือดมังกร เจ้าค่ะ แต่ได้ยินแบบนี้เค้าไม่ได้เมกส่วนผสมแฟนตาซีแฮร์รี่ พอตเตอร์ขึ้นมานะเจ้าคะ เพราะเจ้าเลือดมังกรเนี่ย เป็นชื่อของสารสกัดเข้มข้นจากต้นไม้ที่มีชื่อว่า Dragon’s Blood (มีชื่อวิทยาศาสตร์ด้วยนะเจ้าคะ นางชื่อ Croton Lechleri)
ซึ่งสารสกัดตัวนี้มีคุณสมบัติที่เหมือนเกิดมาเพื่อรักษาแผลโดยเฉพาะ เพราะนางช่วยสมานแผล กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้แผลเป็นอ่อนลง เพิ่มความเรียบเนียน ฟื้นฟู/ซ่อมแซมชั้นผิว รักษาผิวพรรณได้ด้วย
นั่นเป็นเพราะสารสกัดเลือดมังกร 1% มีคุณสมบัติเทียบเท่าวิตามินซี 20 เท่า (ซึ่งช่วยเรื่องการปรับสีแผลเป็นให้จางลง และซ่อมแซม ฟื้นฟูแผลให้หายเร็วขึ้น) และวิตามินอี 180 เท่า (ช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้น และให้แผลซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น) เจ้าค่ะ
ละมุนีทาเช้า ทาเย็น ผลที่ได้ของทั้งสองยี่ห้องคือ แผลเป็นจางลง
*ละมุนีทดลองบนแผลเกิดใหม่เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์เจ้าค่ะ
มารีวิวคำเคลมกันเจ้าค่ะ ว่าทั้งสองตัวเก่งกาจสมกับที่เคลมไว้มั้ย
🌺Dermatix นางเคลมว่า “ช่วยให้แผลเป็นอ่อนนุ่ม ยุบตัว และจางลงใน 3 เดือน”
ละมุนีลองกับแผลบริเวณที่มีการนูน (เพราะฤทธิ์เล็บแมว) และพบว่า 1 สัปดาห์หลังจากใช้ แผลอ่อนลง ทั้งสีและสัมผัสเจ้าค่ะ มีการยุบตัวลงจริงเจ้าค่ะ
🌺Puricas นางเคลมว่า “ลดรอยแผลเป็นและเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ใน 2 สัปดาห์”
ละมุนีลองกับแผลแบบเดียวกันเจ้าค่ะ และพบว่าแผลที่นูนเริ่มยุบลง สีก็จางลงเจ้าค่ะ
🍄สรุป : จากการทดลองใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทั้งสองยี่ห้อช่วยลดรอยนูนของแผล และช่วยให้แผลจางลงได้จริงในประสิทธิภาพที่พอกันเจ้าค่ะ
แต่ทั้งสองยี่ห้อใช้กับแผลแบบไหนได้บ้างน้า มาดูข้างกล่องกันเจ้าค่ะ
🔥Dermatix ใช้สำหรับแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลเป็ดจากการผ่าตัด แผลนูน และแผลคีลอยด์ ส่วนผสมอ่อนโยนแบบที่ในเว็บของผลิตภัณ์บอกว่าทาเปลือกตาได้ แต่ข้างกล่องบอกว่าไม่ควรทาใต้ตาเจ้าค่ะ งงๆ เนอะเจ้าคะ ฮ่าาา
ที่สำคัญห้ามทาบนแผลสดนะเจ้าคะ เค้าแนะนำว่าเริ่มทาได้ตั้งแต่ตอนที่แผลเริ่มปิดสนิทแล้วเจ้าค่ะ
🔥Puricas ใช้สำหรับแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลเป็ดจากการผ่าตัด แผลนูน แผลคีลอยด์ แผลหลุม รอยดำ-รอยแดงจากสิว และแผลสด เรียกได้ว่าใช้กับทุกแผลเจ้าค่ะ แกะสิวเพิ่งเสร็จเลือดออกซิบๆ ก็เริ่มทาได้เลยเจ้าค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยลดรอยแล้ว นางยังมีคุณสมบัติช่วยสมานแผลด้วยเจ้าค่า